ปัจจุบันหลายๆ ธุรกิจต่างก็มีเว็บไซต์เพื่อนำเสนอข้อมูลสินค้าหรือข้อมูลบริการของตัวเอง และในยุคดิจิทัล การวิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์ก็มีความสำคัญอย่างมากต่อธุรกิจ เพื่อให้สามารถเข้าใจลูกค้าหรือคนที่สนใจสินค้าและบริการมากขึ้น จึงมีการใช้งานเครื่องมือติดแท็ก (Tags) หรือติดตามข้อมูลเว็บไซต์ยอดนิยมที่หลายคนรู้จักกันดีอย่าง Google Tag Manager ที่สามารถสร้างแท็กเพื่อติดตามและนำข้อมูลไปวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งานเว็บไซต์ต่อในแพล็ตฟอร์มอย่างเช่น Google Analytics

อย่างไรก็ตามการใช้เครื่องมืออย่าง Google Tag Manager นั้น จำเป็นต้องใช้ทักษะและความเข้าใจด้านโค้ดในระดับหนึ่งเพื่อดูโครงสร้างของเว็บไซต์ เช่น ชื่อ ID, ชื่อ Class หรือถ้าในระดับ Advance ก็อย่างเช่น dataLayer เป็นต้นอ ทำให้หลายๆ ครั้งต้องเสียเวลาไปไม่น้อยกว่าที่จะได้ข้อมูลตามที่ต้องการ จึงเป็นที่มาของ Tag Turbo แพลตฟอร์มสร้าง Tags รูปแบบใหม่ ช่วยให้การเก็บข้อมูลเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ที่สร้างมาให้ใช้งานได้สะดวก และง่ายในการเรียนรู้

ในบทความนี้จึงจะขอเปรียบเทียบระหว่าง Tag Turbo แพลตฟอร์มสร้าง Tags รูปแบบใหม่ กับ Google Tag Manager ที่เป็นที่นิยม เพื่อให้เห็นถึงข้อแตกต่างในการใช้งาน

ความรู้ด้านโค้ด

Tag Turbo: ใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้โค้ด

Tag Turbo ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับทุกคน ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงมืออาชีพ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านโค้ดก็สามารถเริ่มสร้างแท็กได้ และอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ผู้ใช้สามารถสร้างและจัดการ Tags ต่างๆ บนเว็บไซต์ได้เพียงคลิก Element, ปุ่ม หรือ สิ่งต่างๆ ที่เห็นและแสดงผลอยู่บนหน้าเว็บไซต์เพื่อสร้างแท็กได้เลย ด้วยวิธีนี้ทำให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องดูโค้ดในการที่จะเลือก Element หรือปุ่มต่างๆ บนหน้าเว็บไซต์

Google Tag Manager: ต้องการทักษะด้านโค้ด

Google Tag Manager มีความซับซ้อนกว่า แต่ก็มีอินเทอร์เฟชให้ใช้งานในการตั้งค่าและจัดการ Tags ต่างๆ แต่ก็ต้องมีทักษะหรือความรู้ด้านโค้ดด้วย ผู้ใช้ที่ไม่มีทักษะด้านนี้อาจพบกับความท้าทายในการตั้งค่าและใช้งาน Google Tag Manager อยู่บ้าง

การเริ่มต้นใช้งาน

Tag Turbo: เรียนรู้ได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน

Tag Turbo มีอินเทอร์เฟซที่ช่วยให้ใช้งานได้ง่าย สามารถเริ่มสร้าง Tags แรกเพื่อติดตามพฤติกรรมผู้ใช้งานเว็บไซต์ได้ภายในไม่กี่นาที ด้วยการออกแบบรูปแบบการใช้งานที่ผู้ใช้สามารถเลือกในสิ่งที่ต้องการแท็กได้เลย และการแนะนำในแต่ละขั้นตอน

Google Tag Manager: ต้องใช้เวลาเรียนรู้

Google Tag Manager นั้นซับซ้อนกว่า การเรียนรู้วิธีใช้เครื่องมือนี้อาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวัน ผู้ใช้งานในระดับเริ่มต้นอาจจำเป็นต้องศึกษาคู่มืออย่างละเอียดหรือวิดีโอสอนใช้งานเพื่อทำความเข้าใจการตั้งค่าและการใช้งาน

ความสามารถในการติดตามข้อมูล

Tag Turbo: รองรับการส่งข้อมูลไปยังแพล็ตฟอร์มอื่นๆ

Tag Turbo รองรับการสร้าง Tags เพื่อส่งข้อมูลไปยังเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลยอดนิยม เช่น Google Analytics หรือเครื่องมือทางการตลาด เช่น Google Ads, Meta Pixel (Facebook Pixel), และ TikTok Pixel พร้อมทั้งมีตัวเลือกข้อมูลที่เราได้จัดเตรียมไว้ให้สามารถเลือกใช้งานได้เลย ทำให้ลดโอกาสในการผิดพลาดหรือเสียเวลาในการค้นหาข้อมูล แต่เราก็ยังเข้าใจว่าแต่ละธุรกิจก็มีความแตกต่าง ซึ่งถ้าจะกำหนดเองก็ได้เช่นเดียวกัน

Google Tag Manager: รองรับการส่งข้อมูลไปยังแพล็ตฟอร์มอื่นๆ เช่นเดียวกัน

Google Tag Manager อาจไม่ได้มี Tags เริ่มต้นที่รองรับสำหรับทุกแพล็ตฟอร์ม แต่ก็สามารถสร้าง Tags แบบ HTML หรือเลือกใช้ Template ตามที่ผู้ให้บริการมีไว้แต่การสร้าง Tags แบบประเภทนี้อาจจำเป็นต้องใช้ความรู้และความเข้าใจ รวมถึงทักษะด้านโค้ด

การวิเคราะห์ข้อมูลและการรายงาน

Tag Turbo: มีแดชบอร์ดรายงานข้อมูลจาก Google Analytics

Tag Turbo ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดูข้อมูลที่ทำการแท็กไปยัง Google Analytics ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยมีแดชบอร์ดที่ดึงมาเพื่อรายงานข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัดสำคัญต่างๆ เช่น จำนวนผู้เข้าชม (User) การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ (Engagement) การกระทำต่างๆ บนเว็บไซต์ (Event) แหล่งที่มาของผู้เข้าชม (Traffic Source) และอื่นๆ อีกมากมายสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นโดยไม่ต้องเปิดหลายแพล็ตฟอร์ม

Google Tag Manager: ดูข้อมูลผ่าน Google Analytics

Google Tag Manager นั้นเป็นแค่ Tag Management ซึ่งการจะดูข้อมูลต่างที่ได้ทำการแท็กไปยัง Google Analytics ไม่สามารถดูเบื้องต้นได้ผ่านแพล็ตฟอร์มโดยตรง ซึ่งผู้ใช้งานสามารถดูได้ผ่าน Google Analytics

ดังนั้นโดยสรุปแล้ว

Tag Turbo จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับ:

• ผู้ใช้งานที่ต้องการติด Tags เพื่อติดตามเว็บไซต์โดยไม่ต้องอาศัยทักษะด้านโค้ด

• ผู้ใช้ต้องการเริ่มติดตามเว็บไซต์โดยเร็ว และสะดวก

• ผู้ใช้ต้องการอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและกระบวนการตั้งค่าที่รวดเร็ว

สำหรับผู้ที่อ่านมาถึงตรงนี้และอยากทดลองใช้ Tag Turbo สามารถเข้าไปสมัครและทดลองใช้งานได้ฟรี 14 วัน! แล้วคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การติดแท็กบนเว็บไซต์ที่ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น